สไลด์โชว์

วันศุกร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

โรคไวรัสตับอักเสบ บี

ไวรัสตับอักเสบบีเป็นเรื่องใกล้ตัวที่เราทุกคนควรเรียนรู้  คุณอาจเป็นอีกคนหนึ่งที่มีเชื้อตัวนี้อยู่ในร่างกายโดยที่ตัวคุณเองก็ไม่รู้   เพราะหากติดเชื้อแล้วมันมักจะไม่แสดงอาการเด่นชัดให้เห็น  แต่ที่แน่ๆหากปล่อยให้มันอยู่ในตัวคุณไปนานๆโดยขาดการรักษาที่ถูกต้องมันก็อาจส่งผลให้เป็นมะเร็งตับได








...อัตราเสี่ยงจากประชากร 100 คนจะพบผู้ติดเชื้อ 5 คน...
.......ไวรัสตับอักเสบบีไวรัสตับอักเสบบี (HBV) คือไวรัสชนิดร้ายแรงที่เป็นอันตรายต่อตับ   ตับเป็นอวัยวะสำคัญซึ่งมีหน้าที่กำจัดสารพิษในเลือดและยังทำหน้าที่สะสมสารอาหารและผลิตโปรตีนเพื่อช่วยให้ร่างกายทำงานได้ดียิ่งขึ้น..
ผู้ที่ป่วยเป็นโรคไวรัสตับอักเสบบีแบบเรื้อรัง(ระยะยาว) มีความเสี่ยงสูงสุดต่อการเกิดมะเร็งตับและภาวะตับวาย: 1 ใน 4 ของผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบบีแบบเรื้อรังอาจเสียชีวิตจากมะเร็งตับหรือภาวะตับวาย
คนส่วนใหญ่แทบจะไม่ทราบว่าตนเองติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี
ไวรัสตับอักเสบบี ยังสามารถติดต่อผ่าน...
- การฉีดสารเสพติดและการใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน
- การเจาะตามร่างกายและการสักโดยใช้เข็มที่นำกลับมาใช้ซ้ำ

- การฝังเข็มโดยใช้เข็มที่นำกลับมาใช้ซ้ำ
- การสัมผัสกับเลือดในขณะปฏิบัติงาน
- การทำเล็บในร้านเสริมสวยที่ใช้ตะไบแต่งเล็บและกรรไกรตัดเล็บร่วมกัน
- การใช้แปรงสีฟันหรือมีดโกนร่วมกัน
- การมีเพศสัมพันธ์กับบุคคลที่ติดเชื้อโดยไม่มีการป้องกัน




โดยส่วนใหญ่จะไม่มีอาการแสดงใดๆที่เตือนให้เราทราบว่ากำลังติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีแบบเรื้อรัง อาจมีอาการแสดงบางอย่างเกิดขึ้นเช่น อ่อนเพลีย ปัสสาวะสีเข้มผิวและดวงตาเปลี่ยนเป็นสีเหลืองผลการตรวจเลือดเพื่อตรวจสอบการทำงานของตับอาจปกติดี อาจจำเป็นต้องใช้วิธีการตรวจตับที่เฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น
...ไวรัสตับอักเสบบี ไม่ติดต่อกันทาง...
- การดื่มน้ำหรือรับประทานอาหารร่วมกัน
- การกอดหรือการจุมพิต
- การใช้อุปกรณ์สำหรับรับประทานอาหาร
- หรือแก้วน้ำร่วมกัน
- การไอหรือจาม
 -การให้นมบุตร
.....หากได้รับเชื้อไวรัสตับอักเสบบี จะมีอาการอย่างไร
        หากได้รับเชื้อไวรัสตับอักเสบ บี จะเข้าไปฟักตัวในร่างกายเราประมาณ 2-3 เดือน แล้วจึงเริ่มมีอาการอ่อนเพลียคล้ายเป็นหวัด คลื่นไส้ อาเจียน จุกแน่นใต้ชายโครงขวาจากตับไต ปัสสาวะเข้ม ตาเหลือง อาการเหล่านี้จะค่อยๆ ดีขึ้นในเวลา 2-3 สัปดาห์ และร่างกายจะค่อยๆ กำจัดไวรัสตับอักเสบ บี ออกไปพร้อมๆ กับการสร้างภูมิคุ้มกันเพื่อป้องกันการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ บีซ้ำอีก ผู้ป่วยร้อยละ 5-10 อาจโชคไม่ดี ไม่สามารถกำจัดเชื้อออกจากร่างกายได้ เกิดการติดเชื้อเรื้อรังโดยเฉพาะหากได้รับเชื้อไวรัสตับอักเสบ บี ตั้งแต่เด็กๆ ผู้ป่วยส่วนใหญ่ไม่มีอาการหากตรวจเลือดพบว่ามีไวรัสตับอักเสบ บี ผู้ป่วยบางรายจะมีการอักเสบของตับร่วมอยู่ด้วย ซึ่งหากมีการอักเสบตลอดเวลาจะทำให้มีการตายของเซลล์ตับ เกิดมีพังผืดเพิ่มมากขึ้นจนเป็นตับแข็งในที่สุด ผู้ป่วยจำนวนหนึ่งอาจกลายเป็นมะเร็งตับซ้ำเติม




.....การที่ตับอักเสบบ่อยๆ ตับจะเกิดอาการระคายเคืองเป็นระยะ  แล้วตับมันก็จะพยายามซ่อมตัวของมันเอง ทำให้บางครั้งเกิดเนื้อเยื่อที่ไม่เหมือนกับเนื้อตับเดิม  กลายเป็นเนื้อร้าย หรือเป็นมะเร็งตับขึ้นมา จากสถิติแล้ว หากมีไวรัสตับอักเสบบีอยู่ในร่างกายนานประมาณ 40-50 ปี คนคนนั้นจะมีโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งตับสูงมาก

ใครก็ตามที่มีเชื้อไวรัสตับอักเสบชนิดบีอยู่ในตัวไม่ว่าจะเป็นเพียงพาหะก็ตาม  ควรจะต้องรู้ตัวว่าอาจจะเป็นมะเร็งตับได้  และต้องดูแลตัวเองให้ดี  ไม่ให้ภูมิต้านทานของตัวเองเพลี่ยงพล้ำต่อเชื้อไวรัสได้  จึงจะลดอัตราเสี่ยงนี้ลงได้

วิธีธรรมชาติในการยับยั้งอาการมะเร็งตับไม่ให้เกิดขึ้น
1. งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างเด็ดขาด
2. หลีกเลี่ยงการใช้ยาที่มีผลต่อตับ เช่น พาราเซตามอล  เตตราไซคลิน  อีริโทรมัยซิน  ไอเอนเอช และยาคุมกำเนิด  เป็นต้น
3. ต้องพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อยๆควรนอนให้ได้วันละ 6-8 ชั่วโมง
4. ห้ามไม่ให้เครียด ไม่ควรทำงานหามรุ่งหามค่ำต้องหาวิธีคลายเครียดทุกวัน เช่น ทำงานอดิเรกหรืออกกำลังกาย เพราะความเครียดจัดทำให้ภูมิต้านทานตกได้มากๆเลย
5. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เช่น เดินเร็ว หรือวิ่งเหยาะ 5-7 ครั้งต่อสัปดาห์ นานครั้งละครึ่งชั่วโมง การออกกำลังกายขนาดนี้จะช่วยรักษาระดับภูมิต้านทานให้สูงอยู่เสมอ
6. อาหาร  เป็นเรื่องสำคัญที่สุด จะต้องกินข้าวกล้องเป็นประจำ  กินผักสดผลไม้สด กินน้ำคั้นจากผักและผลไม้สดอย่างน้อยวันละ 3-4 แก้ว (200 ซีซี) เพราะน้ำตาลจำเป็นต่อการทำงานของตับ  แต่ไม่ควรกินน้ำหวานใส่สี เพราะมีประโยชน์ไม่เท่ากับน้ำผักและน้ำผลไม้สดๆ

         งดน้ำมัน  ดังนั้นอาหารประเภท ทอด  ผัด  กะทิ  นม เนย ต้องงด  เพื่อที่ตับจะได้ทำงานย่อยอาหารประเภทน้ำมันน้อยลง  ตับของเราไม่สบายก็ควรปล่อยให้มันได้พักบ้างไม่ใช่ใช้งานหนักโดยให้ย่อยอาหารมันๆ อย่างข้าวขาหมู ข้าวมันไก่-อย่างนี้ไม่ควร
         งดเนื้อสัตว์รวมทั้งเนื้อปลา  กินแต่มังสวิรัติ  จนกระทั่งตับหายอักเสบ  เอนไซม์ตับลดลงเป็นปกติ  จึงกินปลาหรือสัตว์น้ำบ้างนิดๆหน่อยๆ แบบคนไทย เช่น กุ้งใส่แกงเลียง  ปลาใส่แกงส้มอะไรประเภทนี้  แต่น้ำมันยังคงต้องควบคุมต่อไป

สำหรับผู้ที่เป็นตับอักเสบแล้วและต้องการควบคุมอาหาร  เสนอว่าให้ทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป เป็น 3 ระยะ ดังนี้คือ

ระยะที่หนึ่ง 2 สัปดาห์แรก
1. กินข้าวกล้อง  ขนมปังโฮลวีท  ซึ่งเป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนที่ไม่ได้ขัดขาวทุกมื้อ
2. กินผักสด  หรือผลไม้สดทุกมื้อ เช่นมื้อเช้ากินผลไม้สด  มื้อเที่ยงกินส้มตำ  มื้อเย็นกินสลัดผัก  กินน้ำคั้นจากผักและผลไม้สด วันละ 2 แก้ว (200 ซีซี)
3. เนื้อสัตว์  ให้กินปลา  อาหารทะเล  และไข่  ถ้าจะอยากกินไก่  ให้กินไก่พื้นบ้าน และลอกหนังออก
4. น้ำมันพืช ใช้เพียงเล็กน้อย พอให้ของที่ผัดไม่ติดกระทะ
ระยะที่สอง 4 สัปดาห์ถัดไป หรือจนกระทั่งตับหายอักเสบ
1. กินข้าวกล้อง  ขนมปังโฮลวีทเช่นเดิม
2. กินผักสด  ผลไม้สดทุกมื้อ กินน้ำคั้นจากผักสดและผลไม้สดวันละ 4 แก้ว (200 ซีซี)
3. งดอาหารประเภทเนื้อสัตว์ งดปลา กินมังสวิรัติ เช่น เต้าหู้  เห็ด  วุ้นเส้น  แทน
4. งดน้ำมันทุกประเภท และกะทิ ให้กินแกงส้ม  ต้มยำ  ยำ  ลาบ  น้ำพริก แทน
ระยะที่สาม ตลอดไป
1. กินข้าวกล้อง  ขนมปังโฮลวีท เช่นเดิม
2. กินผักสด ผลไม้สดทุกมื้อ กินน้ำคั้นจากผักสดและผลไม้สด วันละ 2 แก้ว (200 ซีซี)
3. กินปลา และสัตว์น้ำได้ งดไก่ และไข่
4. งดน้ำมันทุกประเภท งดกะทิ

ต่อไปนี้เป็นเมนูตัวอย่าง  แนะนำพอเป็นแนวทางเหมาะสำหรับคนที่เป็นไวรัสตับอักเสบบีค่ะ

ข้าวกล้องราดหน้าซีฟู้ด
เครื่องปรุง
ข้าวกล้อง 1 ทัพพี  กุ้งแช่บ๊วย 2 ตัว ปลาหมึกหั่น 2 ชิ้น เนื้อปลากะพงขาว 1 ชิ้น หอยแมลงภู่ 2 ตัว พริกไทยป่น ¼ ช้อนชา รากผักชี 1-2 ราก กระเทียม 3-4 กลีบ น้ำปลา  น้ำตาลนิดหน่อย น้ำมันพืช น้ำซุป พริกขี้หนูสด (ถ้าชอบเผ็ด)
วิธีทำ
โขลกรากผักชี กระเทียม  โรยพริกไทย  ถ้าชอบเผ็ดใส่พริกขี้หนูลงไป ทุบพอแตก 2-3 เม็ด เอากระทะตั้งไฟ ใส่น้ำมันพืชลงไปเล็กน้อย  ผัดเครื่องก่อนแล้วเอากุ้ง ปลาหมึก  หอย  ลงผัดพอสุก ใส่ปลากะพงทีหลัง เติมน้ำซุปพอขลุกขลิก  ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาล (ถ้าชอบหวาน) แล้วนำไปราดข้าวกล้อง
หมายเหตุ
เมนูเป็นตัวอย่างของอาหารใน 2 สัปดาห์แรก คือกินข้าวกล้อง  อาหารทะเล ใช้น้ำมันเล็กน้อย  ถ้าได้กินอาหารจานนี้กับสลัดผักสด  และตามด้วยน้ำผลไม้คั้นสด เช่น น้ำส้มคั้น ก็จะสมบูรณ์ทีเดียว
2  สัปดาห์แรกเป็นเมนูที่ค่อยๆ ทำให้คุณชินกับอาหารไขมันต่ำ และการงดเนื้อสัตว์ใหญ่
ซุปมิโซะ  เต้าหู้หลอด
เครื่องปรุง
เต้าหู้หลอด 1 หลอด มิโซะ 1 ช้อนโต๊ะ ต้นหอม 1-2 ต้น น้ำซุป 1 ถ้วยแกง
วิธีทำ
หั่นเต้าหู้เป็นแว่นแล้วผ่าเป็น 4 ส่วน ต้มน้ำซุปให้เดือด ละลายมิโซะลงไป ใส่เต้าหู้ และต้นหอมหั่นทีหลัง
หมายเหตุ
เมนูนี้เป็นแบบมังสวิรัติ เหมาะสำหรับกินในระยะที่สอง ซึ่งต้องกินมังสวิรัติและไม่ใช้น้ำมัน  บางครั้งหันมาใช้มิโซะใส่ลงไปในน้ำแกง ก็จะทำให้หายเบื่อกับแกงจืดแบบเดิมๆได้
ถ้าไม่มีมิโซะ จะใช้เต้าเจี้ยวแบบจีนอย่างดีใส่ลงไปแทนก็ได้
วุ้นเส้นผัดไทยไร้น้ำมัน
เครื่องปรุง
วุ้นเส้นแช่น้ำแล้ว 1 ห่อเล็ก  เต้าหู้แข็ง ¼ ก้อน กระเทียมบุบ 2-3 กลีบ น้ำมะขามเปียก 1 ช้อนโต๊ะ น้ำปลา  น้ำตาลปีบนิดหน่อย  ถั่วงอก 1 หยิบมือ กู๋ไช่ 2-3 ต้น หัวปลี น้ำซุป มะนาว
วิธีทำ
เอาน้ำซุปใส่กระทะ  จนเดือดจัด ใส่กระเทียมบุบลงไปผัดกับน้ำจนหอม เอาเต้าหู้และวุ้นเส้นลงผัด ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะขามเปียก น้ำตาลปีบ ใส่ถั่วงอก และกู๋ไช่ กินกับหัวปลี ก้านกู๋ไช่ ถ้าไม่เปรี้ยวพอให้บีบมะนาว
หมายเหตุ
เมนูนี้เป็นตัวอย่างของอาหารในระยะที่สอง  ซึ่งห้ามน้ำมัน  อะไรที่ต้องการผัดสามารถใช้น้ำซุปผัดแทนได้  แค่นี้ก็ไม่ต้องเป็นภาระของตับที่จะย่อยน้ำมันแล้ว
น้ำพริกกะปิ  ปลาทูย่าง
เครื่องปรุง
กะปิดี 1 ช้อนโต๊ะ กระเทียม 2-3 กลีบ กุ้งแห้งป่น 1 ช้อนโต๊ะ มะเขือพวง  พริกขี้หนู  มะนาว น้ำตาลปีบนิดหน่อย  ปลาทูนึ่ง 1-2 ตัว ผักแกล้มแล้วแต่ชอบ
วิธีทำ
โขลกพริกขี้หนู กระเทียม  กะปิ  กุ้งแห้งเข้าด้วยกัน ละลายน้ำซุปพอขลุกขลิก  ปรุงรสด้วยน้ำตาลปีบและมะนาวแล้วแต่ชอบ
ย่างปลาทูจนสุก  และหอมดีแล้ว  กินกับน้ำพริก และผักแกล้ม
หมายเหตุ
นี่ก็น้ำพริกกะปิธรรมดาๆแต่แทนที่จะกินกับปลาทูทอดให้มีน้ำมันก็เพียงแต่เปลี่ยนมากินกับปลาทูย่าง  ก็อร่อยได้เช่นเดียวกัน
เมนูนี้ทำเป็นตัวอย่างสำหรับอาหารในระยะที่ 3 ซึ่งสามารถกินปลาได้ แต่น้ำมันให้น้อยสักหน่อย  การย่างปลาทูแทนการทอดก็เป็นวิธีหนึ่งที่จะลดน้ำมันลงได้
การกินปลาไม่จำเป้นต้องทอดเสมอไป  จะย่างบ้าง ใส่ไมโครเวฟบ้าง นึ่ง หรือต้มบ้างก็ได้

1 ความคิดเห็น:

  1. ทางเลือกใหม่ที่ทุกคนใช้แล้วมีผลตอบรับดีมากๆ สุขภาพที่ดีไม่ใช่จะต้องดูแลแค่ภายนอก ต้องดูแลภายในด้วย แนะนำสมุนไพรพลูคาว 100% สกัดจากใบพลูคาวที่จะช่วยยับยั้งทำลายเชื้อไวรัส และเซ็ลล์มะเร็ง เชื้อ Hiv หูดหงอนไก่ สเก็ดเงิน ริดสีดวง เบาหวาน ไต ไทรอย ไวรัสตับอักเสบบี อัมพฤกษ์ อัมพาต หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท ภูมิแพ้ โรคพุ่มพวง ไซนัส
    อยากหายจากการป่วยที่เรื้อรังไว้ใจเราครับ
    ผ่าน อย. และได้รับรางวัล ผลิตภัณฑ์ดีเด่นแห่งปี 2558 ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันร่างกายของเราให้มีภูมิคุ้มกันต้านทานโรคต่างๆที่จะมาทำลายสุขภาพของเรา
    สอบถามเพิ่มเติม tel. 0959279523 ID line. Aofaudio0502
    สอบถามผ่านไลน์ก่อนได้ครับ อย่ามัวแต่อายครับสอบถามมาก่อนได้

    ตอบลบ